ตัวอย่าง	A:	Are you going to get married ?
		(คุณกำลังจะแต่งงานใช่ไหม)
	B:	Yes, I am
		(ครับ ผมจะแต่งงาน)

(แทนที่จะตอบว่า Yes, I am going to get married. เราใช้กริยาช่วยแทนทั้งประโยคเลย)

หลักการตอบ

1.	ใช้สรรพนามในประโยคคำตอบ
2.	ถ้าเป็นการตอบรับบอกเล่า ห้ามใช้รูปย่อ
	เช่น	Yes, I am. (ห้ามใช้ Yes I’m.)
		Yes, they are. (ห้ามใช้ Yes, they’re)
3.	สำหรับการตอบปฏิเสธนั้น ให้ใช้รูปย่อว่า
	เช่น	Is she working?
		No, she isn't
	สำหรับการตอบปฏิเสธของ I am not ให้ใช้รูปย่อว่า I'm not.

ดังนั้นผู้ที่จะตอบคำถามชนิดนี้ที่ได้ต้องมีความรู้ในเรื่องของรูปย่อกริยาเป็นอย่างดี

การเปลี่ยนคำย่อของกริยา

       โดยปกติแล้วรูปย่อของกริยานั้นนำมาใช้กันทั้งในประโยคปฏิเสธและประโยคบอกเล่า รวมทั้งในภาษาพูดและภาษาเขียน

Is not	::	isn’t	have not	::	haven’t
are not	::	aren’t	had not	::	Hadn’t
was not	::	Wasn’t	Could not	::	Couldn’t
were not	::	Weren’t	Would not	::	Wouldn’t
Do not	::	Don’t	Should not	::	Shouldn’t
Does not	::	Doesn’t	Need not	::	Needn’t
Did not	::	Didn’t	Must not	::	Mustn’t
Has not	::	Hasn’t	Ought not	::	Oughtn’t
		ยกเว้น	cannot	::	can't
			will not	::	wont's

รูปย่อของกริยาบอกเล่า

am	::	‘m	have	::	‘ve
is, was, has	::	‘s	would, had	::	‘d
are, were	::	‘re	will	::	‘ll

จะเห็นได้ว่ารูปย่อบางรูป ย่อมาจากกริยาหลายตัวเช่น ‘s มาจาก is, was, has ซึ่งความหมาย ในประโยคจะเป็นตัวกำหนดว่ารูปย่อนั้นมาจากกริยาตัวใด